มุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์เตียงชั้นนำสำหรับผู้ป่วยในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“อยากทำงานในที่สว่างๆ มีแสงแดดส่องถึงน่ะครับ” คุณสุรศักดิ์พูดพลางหัวเราะไปด้วย ก่อนหน้านี้เคยเป็นวิศวกรที่แต่ละวันทำงานแต่ในโรงงานให้กับบริษัทอาหาร แต่พอมาทำงานเป็นผู้จัดการของฝ่ายวิศวกรและบริการหลังการขายที่พาราเมาท์ เบดแล้ว ทุกวันนี้ก็ได้ไปตามที่ต่างๆในไทยอยู่เป็นประจำ

“ที่บริษัทถ้ารวมผมด้วยก็จะมีวิศวกร 7 คน ทำหน้าที่ติดตามผลการใช้งานให้กับโรงพยาบาลทั้งเอกชนและโรงพยาบาลรัฐเลยครับ” คุณสุรศักดิ์กล่าว

หากพูดถึงพาราเมาท์ เบด บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ญี่ปุ่นในปี 1947 นับแต่นั้นมาก็กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำในเรื่องเตียงสำหรับผู้ป่วยที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในโรงพยาบาลและการพยาบาลมามากกว่า 70 ปี บริษัทมีความภูมิใจที่ปัจจุบันเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในญี่ปุ่นและเป็นอันดับ 2 ของโลกในด้านเตียงผู้ป่วยที่ใช้ทางการแพทย์

คุณสุรศักดิ์ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท พาราเมาท์ เบด ได้เริ่มทำงานที่นี่มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2011 ซึ่งเป็นช่วงที่เพิ่งตั้งบริษัทได้ไม่ถึงปี เมื่อก่อนบริษัทยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักในไทย แต่มีชื่อเสียงพอสมควรในญี่ปุ่น เรารู้สึกได้ถึงเสน่ห์อันยิ่งใหญ่ที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างแบรนด์ตั้งแต่แรกในไทยของบริษัทที่มีประวัติมายาวนาน

เสน่ห์ของบริษัท ก็คือ กลุ่มสินค้าที่มีฟังก์ชั่นการทำงานเยี่ยมยอดและมีคุณภาพสูงแบบญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีระบบติดตามผลการใช้งานให้กับลูกค้าด้วย คุณสุรศักดิ์เป็นผู้ดูแลระบบติดตามผลการใช้งานให้กับลูกค้าในไทย เป็นบุคลากรที่กล่าวได้ว่าเป็นแกนหลักสำคัญในการสร้างแบรนด์อย่างแท้จริง

“งานที่เคยทำก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่แทบจะไม่ต้องติดต่อกับลูกค้า ตอนที่เข้ามาช่วงแรกเลยรู้สึกว่าแต่ละวันงานมีความท้าทายมาก นอกจากต้องเข้าใจตัวสินค้าแล้ว ยังต้องทำการตรวจสอบหลังจากส่งมอบสินค้า แล้วก็ต้องทำความเข้าใจการติดตามผลให้กับลูกค้าทั้งหมดด้วย ผมคิดอยู่เสมอว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจครับ” คุณสุรศักดิ์กล่าว

เตียงที่มีคุณภาพสูงและการติดตามผลการใช้อย่างทั่วถึงนั้น เรียกได้ว่าเป็นชื่อเสียงของบริษัทและยังมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้มาก

ในช่วงแรกที่คุณสุรศักดิ์เข้ามาทำงาน มีการจำหน่ายเตียงไปเพียง 5,000 เตียง และตอนนี้ได้ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายเป็น 4 เท่าถึง 20,000 เตียง

เมื่อเราถามคุณสุรศักดิ์ถึงเป้าหมายต่อจากนี้ เขาก็ตอบพร้อมกับดวงตาที่ลุกโชนว่า
“เราไม่เพียงแค่จำหน่ายเตียงเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะให้ผู้ใช้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย สถานพยาบาลและทุกครอบครัวที่เป็นลูกค้าสามารถใช้สินค้าของเราได้อย่างเหมาะสมและสะดวกสบายมากกว่าเดิม

ที่บริษัทของเราจะยึดคติ FEG (Fast Easy Good) เป็นแนวทางการทำงาน ‘FAST คือ การติดต่อกับลูกค้าต้องเร็ว’ ‘EASY คือ ลูกค้าต้องติดต่อเราได้ง่าย’ และ ‘GOOD คือ ลูกค้าใช้บริการของเราได้ดีและสะดวกสบาย’ เราอยากตั้งเป้าเรื่องการบริการที่สามารถทำให้ลูกค้าพึงพอพอใจด้วยการทำทั้ง 3 สิ่งนี้อย่างทั่วถึงครับ” คุณสุรศักดิ์กล่าว

เช่น การสร้างระบบที่ช่วยบันทึกข้อมูลการซ่อมแซมเตียงที่จำหน่ายไปแล้วทั้งหมด บริษัทได้เริ่มการทดลองใช้ที่จะนำไปสู่ไอเดียในการสร้างระบบติดตามผลการใช้ สินค้าใหม่ๆ ไปจนถึงการให้บริการที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ประเทศไทยยังมีบทบาทในฐานะที่เป็นศูนย์กลางตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม เป็นต้น และเป็นที่คาดหวังว่าบริษัทในไทยแห่งนี้จะมีบทบาทอย่างมากในการช่วยแก้ไขปัญหาสังคมชุมชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสังคมผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มจะขาดแคลนเตียงผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต

“สินค้าของเรามันยอดเยี่ยมมาก อยากให้คนใช้กันเยอะๆ ถึงจะแค่คนเดียวก็อยากให้ใช้จริงๆครับ”

สินค้าของบริษัทจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน และด้วยความเชื่อที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทีมของคุณสุรศักดิ์นี้ก็ได้ช่วยให้บริษัทพัฒนาต่อไป